จบเห่ แก๊งจีนปล้นจีน รีดเงิน 10 ล้าน บินหนีออกนอกประเทศทุกคนแล้ว ตำรวจสงสัยน้องสาว จ้างข้ามประเทศมาปล้นพี่ชาย เตรียมออกหมายจับ

กรณีเกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายชาวจีน บุกปล้นบ้าน นายเฉียน อายุ 34 ปี นักธุรกิจชาวจีน โดยใช้ปืนจ่อจับมัดมือมัดเท้า ขู่บังคับโอนเงิน 10 ล้านบาท พร้อมลักพาตัว น.ส.ตู อายุ 33 ปี ลูกพี่ลูกน้องชาวจีนหลบหนีออกไปพร้อมกัน เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ซึ่งหลังจากหนุ่มนักธุรกิจชาวจีนหลบหนีออกมาได้สำเร็จ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ภายหลังเจ้าหน้าที่พบข้อสงสัยเชื่อว่า น.ส.ตู ลูกพี่ลูกน้องอาจเป็นนกตกเปิดทางให้ 3 คนร้ายบุกปล้น ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดในคดีนี้ เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 18 ก.ค.67 นายอั๋น นามสมมุติ อายุ 30 ปี โชเฟอร์รถตู้รับจ้างทั่วไป ซึ่งเป็นพยานคนสำคัญในคดีนี้ เดินทางเข้าให้การกับตำรวจ ที่ห้องสืบสวน สภ.หนองปรือ หลังรับ แก๊งชาวจีน 4 คน ที่ก่อเหตุปล้น นายเฉียน รวมถึง น.ส.ตู อายุ 33 ปี ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียหายด้วย โดยรับจากโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ไปส่งที่ท่าอากาศยานสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

นายอั๋น เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.67 รับงานผ่านเอเจนซี่รายหนึ่ง ให้รับผู้โดยสารชาวจีน จากเมืองพัทยา ไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อขึ้นเครื่องต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ โดยให้ไปรับที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยพรประภานิมิตร 7 ซึ่งโรงแรมดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุปล้นเพียง 1 กิโลเมตร โดยตกลงราคากันอยู่ที่ 1,500 บาท และ นัดหมายเวลากันอยู่ที่ เวลา 22.00 น.

โดยตนไปจอดรอรับผู้โดยสารชาวจีน ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่ม ถึงเวลานัดหมาย ปรากฏว่า ไม่มีผู้โดยสารลงมาจากโรงแรม ตนแปลกใจจึงโทรไปถามเอเจนซี่ที่รับงานนี้ ทราบว่า ลูกค้าชาวจีน ขอเลื่อนเวลา ออกไปอีกครึ่งชั่วโมง โดยเอเจนซี่ก๊อปปี้ข้อความแชท กับกลุ่มลูกค้าชาวจีน มาให้ตนดูเพื่อยืนยัน

จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง กลุ่มลูกค้าคนจีนก็ยังไม่มา ซึ่งตอนนั้นเวลาประมาณ 22.40 น. ตนจึงสอบถามไปยังเอเจนซี่อีกครั้ง ได้รับคำตอบว่า ลูกค้าชาวขอเลื่อนออกไปอีก 30 นาที พร้อมกับบอกว่าจะจ่ายค่าเสียเวลาเพิ่มให้

จนกระทั่งเวลา 23.15 น. ก็พบว่ามีกลุ่มชายชาวจีน 4 คน โดยตนเองไม่แน่ใจว่า 1 ในนั้น มีผู้หญิงหรือไม่ เพราะการแต่งตัวของทุกคนเป็นผู้ชายทั้งหมด แต่ละคนไม่มีสัมภาระ มีแต่กระเป๋าเป้สะพายติดตัวมาคนละ 1 ใบ แต่มีคนน่าสงสัยอยู่เพียงหนึ่งคน คือคนที่ ใส่แว่น ส่วนเสื้อสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำตาล มีอาการหวาดระแวงผิดปกติ กอดกระเป๋าเป้ แล้วหันมองซ้ายมองขวาตลอดเวลา

จากนั้นทั้งหมดก็พากันขึ้นรถ แล้วออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ ระหว่างทาง กลุ่มชาวจีนมีการพูดคุยเป็นภาษาจีนกันตลอดเวลา ในสีหน้าเคร่งเครียด บางคนมีอาการกังวล เหมือนพยายามเร่งตนเองให้ขับรถไปถึงสนามบินให้เร็วที่สุด ขนาดตนเองปวดปัสสาวะ ยังไม่กล้าแวะจอด

จนกระทั่งเวลาเกือบจะตี 1 ก็ถึงสนามบิน กลุ่มชาวจีนรายนี้ก็ยื่นเงินให้ 1,800 บาท แล้วเดินลงจากรถไป ซึ่งตนเองได้ถ่ายรูปกลุ่มชาวจีนกลุ่มนี้ไว้ได้ 1 รูป ขณะทั้งหมดยืนสูบบุหรี่อยู่ทางเข้าสนามบิน ( โดยหนึ่งในนั้นคือ น.ส.ตู ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียหาย

จากนั้นตนเดินทางกลับที่พัก จนมาทราบตอนหลัง เพราะมีตำรวจติดต่อมาหาและบอกว่า ตนเองรับกลุ่มผู้โดยสารซึ่งไปก่อเหตุปล้นคนจีนด้วยกัน ในพื้นที่เมืองพัทยามาส่งสนามบิน พอทราบเรื่อง ยอมรับว่าตกใจมาก จนมือสั่น ทำอะไรไม่ถูก จึงรีบเดินทางมาเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดทางเข้า สนามบินสุวรรณภูมิ สามารถจับภาพ น.ส.ตู ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียหาย เดินมาพร้อมกับชายชาวจีนอีก 3 คน ซึ่งนั่งรถตู้มาด้วยกัน เข้าไปในท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนจะเดินแยกย้ายกันไป จุดเคาน์เตอร์เช็คอิน

ซึ่งต่อมาตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สืบสวนและตรวจตรวจสอบ จนทราบว่าชายชาวจีนทั้ง 3 คน คือ

1.MR.FENGYONG REN (เหริน เฟิงหยง) อายุ 46 ปี

2.MR.XINGLIANG LIN (หลินซิงเหลียง) อายุ 26 ปี

3. MR.LIJIAN YANG (หยาง ลี่เจียน) อายุ 41 ปี

ทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศไทยพร้อมกันเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ด้วยเที่ยวบิน VZ963 เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม และ เดินทางออกจากประเทศไทยพร้อมกัน มุ่งหน้าไปยัง ประเทศฮ่องกง ด้วยเที่ยวบิน HX780 เมื่อเวลา 02.00 น.

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งข้อสงสัยว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ จะเป็นการจ้าง ชาวจีนบินข้ามประเทศ เข้ามาก่อเหตุปล้นผู้เสียหายหรือไม่ โดยคนอยู่เบื้องหลัง น่าจะเป็น น.ส.ตู ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียหาย เพราะจากการตรวจสอบไทม์ไลน์ ของกลุ่มชายชาวจีนทั้ง 3 คน พบว่าเดินทางเข้าและออกประเทศไทย ในเที่ยวบินเดียวกัน ทั้งหมด

แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานหลักฐาน และเตรียมขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา เพื่อออกหมายจับกลุ่มชาวจีน ทั้ง 4 คน ในเร็ววันนี้