ไข่ฟองละ2.5แสน หนุ่มวัย51ใช้เนื้อที่1ไร่ เลี้ยงนกแก้วมาคอว์ โกยเงินหลักล้านได้ไม่ยาก เผยทุกตัวมีใบอนุญาตถูกต้อง เคยขายได้สูงสุดคู่ละ 1.5 ล้าน
วันที่ 10 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ราชาฟาร์ม เลขที่ 28/1 หมู่ที่ 3 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นของนายราชัน สรรเพชร หรือบังราชัน อายุ 51 ปี ที่ได้ใช้พื้นที่ว่างข้างบ้านเนื้อที่ไม่ถึง 1 ไร่เปิดเป็นฟาร์มเลี้ยงนกแก้ว นกกระตั้วและนกปรอทหัวจุกรายใหญ่ใน จ.ตรัง ที่ตอนนี้มีมากกว่า 250 ตัว และได้รับใบอนุญาตจากกรมป่าไม้อย่างถูกต้องมานานกว่า 15 ปีแล้ว
นายราชัน กล่าวว่า เป็นคนชอบนกมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเห็นว่ามีสีสันที่สวยงาม มีเสียงร้องที่ไพเราะ น่ารัก จึงหัดเลี้ยงเรื่อยมา จากเลี้ยงเล่น ๆ จนกลายเป็นอาชีพ โดยเริ่มจากการเพาะเลี้ยงนกปรอทหัวโขนหรือนกกรงหัวจุก ราคาหลักร้อย ขยับขึ้นมาหลักพัน และพัฒนาต่อยอดมาเป็นนกกรงหัวจุกเผือก ราคาหลักแสน ซึ่งเคยขายได้สูงสุดถึงคู่ละ 1,500,000 บาทเมื่อปี 2565
ต่อมาได้ขยายธุรกิจเลี้ยงนกแก้วมาคอว์และนกกระตั้วเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 100 ตัว เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านกบินอิสระ ที่นำไปฝึกบินตามคำสั่ง รวมทั้งนำไปบินโชว์ สร้างสีสันความเพลิดเพลินให้กับประชาชนตามจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ
ไข่ฟองละ2.5แสน หนุ่มวัย51ใช้เนื้อที่1ไร่ เลี้ยงนกแก้วมาคอว์ โกยเงินหลักล้านได้ไม่ยาก
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าในกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางถึงระดับสูง เนื่องจากนกแก้วแต่ละสายพันธุ์ มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้าน เช่นนกแก้วไฮยาซินตัวสีน้ำเงินราคาตัวละ 900,000 บาท ส่วนนกแก้วบลูโกล,สกาเล็ต,แอฟริกันเกรย์,และกรีนวิง ตัวละ 35,000 บาทขึ้นไปจนถึงหลักแสน ส่วนไข่นกแก้วมาคอว์เริ่มต้นที่ใบละ 13,000 บาท-250,000 บาท แต่มีไม่พอต่อความต้องการของลูกค้า เรียกว่าต้องจองกันล่วงหน้านานนับเดือน ถึงจะได้เป็นเจ้าของ
สำหรับนกกรงหัวจุก เริ่มต้นเบา ๆ ราคาตัวละ 5,000-200,000 บาท แต่นกกรงเผือกหรือลูกผสมไฮบริค จะมีราคาหลักแสนขึ้นไป ซึ่งขายได้ทุกสี แล้วแต่ความชอบของลูกค้า โดยเฉพาะสีโอวัลติน สีเทา และนกกรงหัวจุกแฟนซี ส่งขายทั่วประเทศปีละนับร้อยตัว ก็ยังไม่พอขาย บางเดือนสร้างรายได้ถึงหลักแสนบาท แต่ก็ไม่ใช้ว่าจะขายได้ทุกเดือน
แต่มาบวกลบค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งค่าคนงานและอาหารนกก็แพงขึ้นเป็นเงาตามตัว ตกเดือนละ 7 หมื่นบาท แต่ก็ยังถือว่าสร้างรายได้อยู่ เพราะนกยิ่งโต สีสันจะยิ่งเด่นชัดและมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ส่วนใครที่สนใจสามารถติดตามได้ทางเพจเฟซบุ๊ก ราชาฟาร์มตรัง หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-7477478
โดยนายราชัน สรรเพชร เจ้าของราคาฟาร์มนก กล่าวว่า ตนเลี้ยงนกอยู่ 4 ชนิดเป็นนกแก้วมาคอว์ 30 คู่ นกกระตั้ว 10 คู่ แอฟริกันเกรย์ 5 คู่และปรอทหัวจุก 80 คู่ เริ่มต้นตัวละ 5,000 บาทขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แต่ถ้าเป็นลูกผสมอินโด ลูกนกจะขายตัวละ 150,000 บาท
ส่วนนกแก้วมาคอว์ 30 คู่ ราคาเริ่มต้นตัวละ 35,000 บาท ถ้าเป็นนกผสมข้ามสายพันธุ์หรือไฮบริค จะราคาอัพขึ้นประมาณ 3 เท่าของราคาไข่ แต่ถ้าสวยๆ ก็อัปราคาได้ถึงตัวละ 1 M หรือ 1 ล้านบาท ซึ่งที่ฟาร์มเคยขายได้ตัวละ 1 ล้านบาท ซึ่งไฮยาซิน ตัวสีน้ำเงินตัวละ 900,000 บาท ส่วนไข่แอฟริกันเกรย์ใบละ 13,000 บาท บลูโกลใบละ 20,000 บาท
ส่วนลูกผสมบลูโกลกับกรีนวิงใบละ 50,000 บาท บลูโกลกับสกาเล็ตใบละ 80,000 บาท ลูกนกที่เป็นเอฟ 2 ไข่ใบละ 250,000 บาท เขาจะเอาไปปล่อยเป็นนกบินอิสระซึ่งจะมีกลุ่มของแต่ละจังหวัด บางทีก็มี Meeting ระหว่างภาค
มีการจัดการแข่งขันนกบินทุกภาคและขายได้ทุกสีแล้วแต่ลูกค้ากับจำนวนเงินในกระเป๋าว่าสามารถจับต้องตัวไหนได้ ถ้ามีทุนไม่มากก็ซื้อบลูโกลไปเล่นในราคาลูกนกประมาณ 35,000 บาท ซึ่งสามารถเลี้ยงปล่อยบินอิสระตามธรรมชาติได้ ส่วนหมายเลขโทรศัพท์ราคาฟาร์มคือ 081-7477478 ติดต่อตนซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มได้โดยตรง