ดู๋ สัญญา ควงลูกชาย เอม สรรเพชญ์ เปิดใจหลังเข้าวงการ ไม่หวั่นโดนเปรียบเทียบ

Author:

ดู๋ สัญญา ควงลูกชาย เอม สรรเพชญ์ เปิดใจครั้งแรกหลังเข้าวงการ ไม่หวั่นโดนเปรียบเทียบ – ย้อนเล่าตอนเด็กเคยโดนบูลลี่ เพราะตัวเล็ก-ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง

พิธีกรแถวหน้าของเมืองไทย ดู๋ สัญญา คุณากร ควงลูกชายสุดหล่อ เอม สรรเพชญ์ เปิดใจครั้งแรกหลังความหล่อทะลุจอจนเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน พร้อมเผยความสนิท “พ่อ-ลูก” สายชิล รวมถึงเรื่องที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน

อีกทั้งยังเปิดเบื้องหลังของหนุ่มเอมจากเด็กขี้อายกลายเป็นดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องวัน31 ที่มี หนิง ปณิตา, เป็กกี้ ศรีธัญญา และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย กับการประเดิมเป็นพิธีกรวันแรก

รู้สึกยังไง ลูกชายฉายแสงชั่วข้ามคืน กลายเป็นดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิง?

ดู๋ : คนเป็นพ่อก็ดีใจ อยากลงรูปลูก แต่เขาเล็กๆ ผมพยายามเลือกรูปที่เขาหน้าตาดีมาลง ถ้าคนอื่นเห็นเขาหน้าตาดีโดยผมไม่ต้องเลือกรูปได้ ผมก็รู้สึกว่าเป็นบุญของเด็ก แต่มันเป็นแค่บันไดขั้นที่หนึ่ง เวลาเริ่มต้นมันอาจทำให้คนหันมามอง แต่มองแล้วคุณทำงานได้ดีไหม

เห็นบอกว่าเวลาดูคอมเมนต์ เขินมาก?

เอม : บางทีผมอาจจะไม่อ่าน มันตอบไม่ถูกทุกอย่างมันมาเร็วมาก คุณพ่อรู้ดีกว่าผม

ดู๋ : เขาไม่อ่าน เอาจริงๆ ผมเห็นคำชมเยอะ แต่เวลาผมไถหา ผมหาคำตำหนิ เพื่อมาบอกเขา ถ้าสิ่งตำหนินั้นเราควรแก้ไข เราจะได้แก้ แต่ไม่ค่อยเจอ ถามว่าเขาชมอะไรบ้าง ส่วนมากชมว่าหน้าตาดี เหมือนอาบน้ำทุกชั่วโมง

ตอนนี้ไปไหนมาไหน คนเริ่มเข้ามาขอถ่ายรูปหรือยัง?

เอม : เริ่มมีแล้วครับ แต่ยังไม่ชิน มันรู้สึกแฮปปี้มากตอนมีคนมาบอกว่าเราทำให้วันของเขาดีขึ้น โดยเราไม่ได้ทำอะไรเลย


ความเขินได้มาจากคุณพ่อ?

ดู๋ : ตอนแรกผมคิดว่าเขาเป็นคนเดียว แต่พอมานึกย้อนสมัยผมเรียนมัธยม สมมติโรงเรียนมีการแสดงอะไร เขาเลือกคนไปแสดง แน่นอนผมมีตำแหน่งประจำ คือมึงเป็นคนดูไม่ต้องมาเล่น เพราะดูทรงไม่น่าเล่นอะไรได้ ในห้องหนึ่งคนกล้าแสดงออก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่มันมีน้อย

เวลาโรงเรียนมีกิจกรรมที่ต้องออนสเตจ ไม่เอาเลย?

เอม : ไม่เอาเลยครับ เขิน แล้วเรากลัวไม่คิดว่าเราจะทำได้ ตัดตัวเองไว้ก่อน ไม่ทำดีกว่า


แต่ตอนนี้มันเลี่ยงไม่ได้แล้ว?

ดู๋ : อันนี้เขาเลือกเอง

สิ่งที่เหมือนคุณพ่อมากที่สุดคืออะไร?

เอม : บุคลิกภายใน ผมว่าเราคล้ายกัน

ดู๋ : บุคลิก และวิธีคิดหลายเรื่อง


การเลี้ยงลูกของเราทุกข์ทรมานมากกับการที่ลูกไม่กินข้าว?

ดู๋ : มาก (ต้องไปหาหมอโภชนาการ เพราะกลัวลูกตัวเล็ก กลัวไม่สูง?) ไม่ใช่แค่ภรรยา คนรอบๆ ตัวเดินป้อน ผมก็หัวเดียวกระเทียมลีบ แต่สุดท้ายผมเป็นคนหาวิธี ฝากผู้ปกครองทุกท่าน เด็กที่เขาไม่กิน ไม่ใช่เขาเป็นเด็กไม่ดี หรือสิ่งที่ทำไม่อร่อย ที่เขาไม่กิน เพราะเขาไม่หิว เพราะเขาไม่เผาผลาญพลังงาน ขาออกเขาไม่มี คุณลองนอนเฉยๆ ทั้งวัน คุณจะไม่ค่อยหิว

แก้ไขยังไง?

ดู๋ : ผมสอนเขาว่ายน้ำ ฝึกระดับนึง โรงเรียนปีนึงเขาจะมีการคัดนักกีฬาของโรงเรียน เขาชอบว่ายน้ำก็บอกเขาว่า ถ้าเอมได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียน พ่อจะภูมิใจมาก แม่จะดีใจมาก ปั่นเขาทุกวัน สิ่งที่เราต้องการคือ แกต้องซ้อมทุกวัน เพราะโรงเรียนมันบังคับ

รู้ไหมว่าคุณพ่อใช้วิธีนี้ในการให้เรารับประทานอาหาร?

เอม : ไม่รู้เลยครับ ผมแค่อยากให้พ่อภูมิใจ

เห็นว่าตอนเด็กถูกบูลลี่ เพราะว่าตัวเล็ก?

เอม : ตอนนั้นผมเพิ่งเข้าโรงเรียนอินเตอร์ ภาษาอังกฤษยังไม่แข็ง โดนทุกอย่างเลยครับ ทั้งคำพูดและทำร้ายร่างกาย ต่อยกันแบบเด็ก ซึ่งผมไม่ได้บอกคุณพ่อ เพราะถ้าบอกผมรู้ว่าคุณพ่อจะจริงจังมาก

ตอนนี้เซ็นสัญญากับช่องวันเรียบร้อยแล้ว?

เอม : ใช่ครับ

ดู๋ : จริงๆ เป็นเรื่องบังเอิญ รู้กันอยู่ว่าคุณบอย(ถกลเกียรติ) เราไม่สามารถไปบังคับให้เขาอะไรได้ เพราะเขาเป็นผู้บริหาร คือบังเอิญผมเจอกับบอยที่งาน ตอนนั้นเขาไม่มีอะไรทำ และเขาอยากทำ เราสองคนคุยกันแล้วว่าเขาอยากทำ แล้วผมก็เห็นว่ามีนู่นนี่นั่นมาติดต่อ 3 เจ้า แต่ในนั้นไม่มีช่องวัน

ทำไมต้องเป็นช่องวัน?

ดู๋ : ผมเล่นละครเยอะๆ คนรู้จักก็ช่องวัน ตอนนั้นเป็นเอ็กแซ็กท์ ซึ่งวันนั้นพอละครเลิกก็บังเอิญเดินไปเจอ เอาว่ะไม่ได้เจอกันหลายปี บอยเคยเห็นลูกผมหรือยังสนใจไหมให้มาเป็นนักแสดง ลำบากมากเลย บอยบอกเอาสิพี่ นัดเจอเลย มีเวลาแค่นั้นแล้วต่างคนต่างแยก แล้วเลขาฯ บอยก็โทรมา


ได้ยินแบบนี้รู้สึกยังไง ?

เอม : เขินแทนเหมือนกันครับ มันไม่ใช่บุคลิกของพ่อด้วย ขอบคุณครับ

กดดันไหม ถ้าคนเอาไปเทียบกับคุณพ่อเพราะคุณพ่อเก่งมาก?

เอม : ไม่กดดันอยู่แล้วครับ แต่ผมเชื่อว่าผมได้บุคลิกและหลายอย่างจากคุณพ่อ ผมไม่ได้กลัวการเทียบ เพราะผมเชื่อว่าเขารู้ว่าเราคนละคนกัน ผมกลัวว่าถูกมองว่าเป็น ลูกสัญญา อย่างเดียว แล้วไม่ใช้ทักษะอะไรเอง อย่างที่พ่อพูด เราโอเคมาถึงจุดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากคุณพ่อแหละ ต้องยอมรับ แต่ผมเชื่อว่าผมมีฝีมือจริงๆ


แนะนำลูกยังไง?

ดู๋ : ผมว่าใครเปรียบเทียบใครกับใครก็ได้ ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องปกติ ผมอยากบอกว่าความเก่ง ไม่เก่ง เราลองดู และที่ชัดเจนกับเรื่องนี้คือกีฬา คุณจะไม่มีทางเป็นแชมป์ตลอดไป เพราะฉะนั้นผมก็ไม่ได้เก่ง เชื่อว่ามีพิธีกรเก่งกว่าผมตั้งเยอะ มันอยู่ที่โอกาสของเขา ความพยายามของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีใครเป็นแชมป์คนเดียว ถ้าทุกคนตั้งใจ พยายาม ยังไงก็ชนะได้

พอมาถึงจุดนี้ คุณพ่อแนะนำอะไรบ้าง?

เอม : ผมรู้สึกว่าพ่อเตรียมมาตามบุคลิก ไม่ใช่เตรียมสำหรับวงการโดยรวม คือให้เป็นคนดี ส่วนการเตรียมตัวเรื่องเล่นละคร ตอนนี้กำลังเวิร์กช็อปอยู่ครับ

ดู๋ : มีคนถามว่า เข้าวงการต้องเตรียมอะไร ผมบอกว่าสิ่งที่ผมเตรียมเขามาสำหรับทุกอาชีพ เช่น เป็นคนดี มีความพยายาม ตรงเวลา ไม่โกหก

สเปกสาวเป็นแบบไหน?

เอม : เป็นตัวของตัวเอง แนวเท่ แนวเก่ง

ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *