เมีย แฉพฤติกรรม ผัวโหด ยาฆ่าแมลง ผสมน้ำแดง กรอกปากลูกน้อย 2 คน หวังง้อขอคืนดี สุดเหี้ยม เคยวิดีโอคอลพาเด็กไปสะพานพระราม 9 เผย สุดเจ็บปวดหัวใจ
จากกรณี นายสมยศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี สามี นำยาฆ่าแมลงผสมน้ำแดงกรอกปากให้ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 9 ปี และ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 10 ปี ก่อนที่ น.ส.กชมน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ภรรยาจะเข้าไปให้การช่วยเหลือไว้ได้ทัน และเข้าแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 6 ส.ค.2567 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา น.ส.กชมน เข้าพบ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พร้อมประสานพัฒนาสังคม เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือลูก ๆ ที่ถูกนายสมยศก่อเหตุจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล
น.ส.กชมน กล่าวว่า ตนได้คบหากับสามีมาร่วม 10 ปี แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส หรือแต่งงานกัน แรก ๆ ที่คบหากันเป็นคนดี ดูแลเอาใจใส่ สามีไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่จะมีปัญหาทางด้านอารมณ์ โมโหร้าย ก็จะมีปัญหาทะเลาะกันเรื่อยมา
น.ส.กชมน กล่าวต่อว่า ตนมีลูกกับสามี 2 คน เป็นผู้หญิง 1 คน และผู้ชาย 1 คน พักหลังสามีเริ่มมีอาการหึงหวงตน ทำร้ายร่างกายตนถึงขั้นปางตาย แต่ตนไม่ได้แจ้งความไว้ และยังทำร้ายกายแม่ของตนด้วย จนพักหลังสามีไม่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว แต่ตะติดเกมคอมพิวเตอร์ และขอเงินตนใช้
น.ส.กชมน กล่าวอีกว่า ซึ่งทำให้สถานะการเงินแย่ลง เนื่องจากตนต้องหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง จึงตัดสินใจแยกกันอยู่ ซึ่งตนขอให้แม่เป็นคนเลี้ยงลูก โดยสามีบอกว่าจะเป็นคนเอาลูกทั้งสองคนไปด้วย โดยให้เหตุผลว่าเขาเป็นพ่อ เอาลูกไปเลี้ยงเองดีกว่า ตนจึงยอมแยกกันอยู่
น.ส.กชมน กล่าวด้วยว่า ซึ่งแยกกันได้ 3 เดือน สามีของตนพยายามตามง้อขอคืนดีด้วย โดยสามีจะวิดีโอคอลมาขอคืนดีบ่อยครั้ง พอไม่ยอม ก็ขู่ว่าจะทำร้ายลูก ขู่จะฆ่าตัวตายและจะฆ่าลูกด้วย และยังเคยวิดีโอคอลมาให้ตนดูขณะที่กำลังพาเด็ก ๆ ไปกระโดดสะพานพระราม 9
น.ส.กชมน กล่าวว่า และสามียังเคยสั่งยาไซยาไนด์จากออนไลน์มาผสมน้ำอัดลมให้ลูกกินแต่โชคดี เป็นไซยาไนด์ปลอม ลูก ๆ จึงรอดตายปาฏิหาริย์ ล่าสุดสามียังไม่ลดความพยายาม ได้ซื้อยาฆ่าแมลงมาผสมกับอาหารและน้ำอัดลมบังคับให้กิน แต่เด็กไม่กิน เลยจับเด็กบีบคอเหวี่ยงฟาดไปมา เอาผ้าปูที่นอนพันน้องเหลือแต่หัวแล้วจับกรอกปาก จนลูก ๆ ทั้งสองคนดิ้นทุรนทุราย อาเจียน หมดสติ นอนหายใจรวยริน
หลังก่อเหตุสามีวิดีโอคอลไปหาพ่อของตนซึ่งเป็นตาของลูก แล้วบอกว่าเด็ก ๆ เสียชีวิตแล้ว ยังไม่พอมีการถ่ายคลิปตอนที่น้องทรมาน ส่งมาให้ครอบครัวของตนดู ตนทนไม่ไหวพยายามบอกกับสามีว่า “ถ้าอยากตาย ก็ตายไปคนเดียว” อย่าเอาลูกไปเกี่ยวข้องด้วย แต่สามีก็ไม่ยอม
ทุกครั้งที่ตนตามไปเพื่อที่จะเอาลูกคืน แต่สามีก็จะพาลูกหลบหนีไปนอนโรงแรมบ้าง หนีไปอยู่ที่อื่นบ้าง ทำให้ตนไม่สามารถตามตัวลูกได้ตอนนี้ น้องผู้หญิงอยู่ห้องไอซียู น้องผู้ชายวันนี้ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เชื่อว่าสามีไม่ต้องการจะฆ่าตัวตายเพราะกินยาฆ่าแมลงแค่เพียงไม่มาก แต่ทำไปเพื่อต้องการเอาชนะและประชดตัวเองเพียงเท่านั้น
ซึ่งไม่ได้คำนึงและสงสารลูกเลยแต่อย่างใด ตนเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมาก ทนพฤติกรรมของสามีไม่ไหว และยังกังวลเรื่องคดีกลัวผู้ก่อเหตุจะไม่ได้รับโทษ เพราะอ้างว่าไม่ได้เป็นคนทำ ผสมไว้จริง แต่เด็กหยิบทานเอง วันนี้จึงเดินทางจาก จ.นราธิวาส มาขอร้องให้ กัน จอมพลังช่วยเหลือ
ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า หญิงสาวผู้เป็นแม่เดินทางมาจากนราธิวาส ร้องขอให้ตนช่วยเหลือเนื่องจากเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ โดยสามีบีบบังคับให้ภรรยากลับไปคืนดีด้วย โดยการเอาลูกเป็นตัวประกัน ทรมานลูก เคยพาลูกไปสะพานพระราม 9 เพื่อขู่ภรรยาให้กลับมาคืนดี หากไม่กลับมาคืนดีจะพาลูก ๆ กระโดดสะพานฆ่าตัวตาย
กัน จอมพลัง กล่าวต่อว่า และยังสั่งยาไซยาไนด์จากอินเตอร์เน็ตแล้วให้ลูกกิน โดยน้องดิ้นทุรนทุราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมพัฒนาสังคม เข้าไปให้ความช่วยเหลือไว้ทันท่วงที เด็ก ๆ จึงรอดตายปาฏิหาริย์ ตอนนี้เด็กทั้งสองคนอยู่โรงพยาบาลจริง ๆ แล้วเคสนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและพัฒนาสังคมได้ให้ความช่วยเหลือไว้แล้ว
กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า แต่ทางครอบครัวเป็นกังวลใจทางเรื่องของคดีความ เพราะผู้เป็นพ่ออ้างว่า เด็ก ๆ หยิบน้ำมาดื่มเอง และยังข่มขู่ภรรยาว่า ถ้าจะให้เลิกกัน คือต้องตายเท่านั้น ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งตาย ถึงจะเลิกกันได้ และทางภรรยายังกลัวว่า หากสามีได้รับโทษแล้ว ถ้าออกมาจากคุกจะกลับมาทำร้ายหรือฆ่าภรรนาอีก
กัน จอมพลัง กล่าวด้วยว่า ตนจึงเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งได้ประสานพัฒนาสังคม พร้อมกับพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ เพื่อช่วยเหลือเด็กต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ทางด้านของคดีความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ให้ความดูแลและให้ความปลอดภัยตั้งแต่วันแรก จากนั้นได้ประสาน พัฒนาสังคมเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด
พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้เป็นพ่อได้ดื่มยาฆ่าแมลงไปเช่นกัน ก็ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด พอผู้เป็นพ่อได้สติฟื้นตัวก็ได้สอบปากคำทันที โดยผู้เป็นพ่อต้องหาได้ให้การปฏิเสธว่า อ้างว่าไม่ได้เป็นคนเอายาฆ่าแมลงให้เด็ก ๆ กิน แต่เด็ก ๆ กินด้วยตัวเอง
พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ได้รวบรวมพยานหลังฐานในที่เกิดเหตุ และยังหาหลักฐานเพิ่มเติม ว่าก่อนหน้านี้ผู้เป็นพ่อเคยมีพฤติกรรมอะไรมาบ้าง เคยทำร้ายลูกหรือพาลูกไปเสี่ยงอันตรายหรือไม่ เพื่อเอามาประกอบกับเจตนาว่าผู้เป็นพ่อ จะทำกับลูกจริงหรือไม่ แม้ผู้ต้องหาจะปฎิเสธแต่พยานหลักฐานในพื้นที่ชัดเจน
หากผู้ต้องหาทำจริงทางเจ้าหน้าที่สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาได้ทันที โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับทางครอบครัวอย่างใกล้ชิด พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับพ่อที่ก่อเหตุแล้วคือ ข้อหาพยายามฆ่าส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและพิจารณาหากพบก็จะแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป