พม.แจ้งความแล้ว กรณีครูไปพบลูกศิษย์ ถูกลุงซึ่งเป็นผู้ปกครองที่บ้าน ทำร้ายฟาดด้วยหวายที่กลางหลังเหตุเพราะเด็กใส่รองเท้าที่ลุงเพิ่งซื้อให้เหยียบหนามทะลุเป็นรูและเปียกน้ำ เผยผลตรวจร่างกาย แพทย์ระบุรอยถูกฟาดที่กลางหลัง “เป็นแผลค่อนข้างฉกรรจ์”

ที่ จ.นครราชสีมา วันที่ 2 สิงหาคม 2567 ความคืบหน้ากรณี เด็กนักเรียนชายชั้น ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอประทาย ถูกผู้ปกครองใช้ไม้หวายตีกลางหลังและทุบตีทำร้ายหลายครั้ง โดยบริเวณแผ่นหลังของเด็กชายเป็นรอยช้ำแดงขนาดใหญ่ เหมือนถูกไม้เฆี่ยนตีเป็นแนวช้ำยาว และจากการสอบถามเด็กชายทราบว่า ถูกลุงใช้ไม้หวายตีเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา เพราะเด็กชายสวมรองเท้าใหม่ที่ลุงเพิ่งซื้อให้ ใส่ไปเดินแล้วเหยียบหนามจนเป็นรู จึงทำให้ลุงไม่พอใจ นอกจากนี้ เด็กยังถูกผู้ลุงทุบตีเป็นประจำเมื่อไม่สบอารมณ์ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปลัดอำเภอ ฝ่ายปกครองของอำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา และรองนายกเทศมนตรีตำบลประทาย ได้ลงพื้นที่ร่วมกับผู้นำชุมชนและคณะครู เข้าให้ความช่วยเหลือ โดยเข้าไปพูดคุยกับผู้ปกครองถึงปัญหาการใช้ความรุนแรงกับเด็ก ผู้ปกครองบอกว่า เด็กได้ฉี่รดที่นอนหลายครั้ง จนทำให้ลุงมีอารมณ์โกรธฉุนเฉียว จึงใช้ไม้หวายที่วางอยู่ใกล้มือ ตีเด็กไป 3 ที จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงขึ้นซ้ำอีก พร้อมกันนี้ ได้ประสานกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาเข้าให้ความช่วยเหลือ โดยหากเกิดกรณีผู้ปกครองไม่สามารถดูแลเด็กได้ รวมถึง ถ้าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกจะแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ปกครองที่ทำร้ายร่างกายเด็ก ซึ่งผู้ปกครองของเด็กได้รับทราบและยินดีปฏิบัติตาม

ล่าสุด เจ้าหน้าที่พัฒนากร จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนคราชสีมา พร้อมด้วยสหวิชาชีพ ได้ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง พร้อมให้นำเด็กไปให้แพทย์ รพ.ประทาย ตรวจร่างกาย ซึ่งผลการตรวจ พบว่า มีร่องรอยถูกทำร้ายจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ พม.ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองแล้ว

นายเชาว์ลิต นาวิเศษศิริ ครูประจำของนักเรียน ชั้น ป.4 ที่ถูกผู้ปกครองทำร้ายร่างกาย บอกว่า หลังจากได้ทราบเรื่องจากครูประจำวิชา ก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เข้าช่วยเหลือ ซึ่งตนและคณะครูเคยเข้าไปพบผู้ปกครองก่อนหน้านี้แล้วเพื่อขอความร่วมมืออย่าทำร้ายเด็กรุนแรงแบบนี้ ตอนแรกก็รับปาก แต่ทราบต่อมายังมีการทำร้ายร่างกายกันอยู่ และจากการสอบถามเพื่อนบ้านก็บอกตรงกันว่า ผู้ปกครองรายดังกล่าวมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงเช่นนี้เป็นประจำ จึงตัดสินใจประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม และยุติการกระทำรุนแรงที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด

ขณะที่เด็กนักเรียนที่ถูกลุงทำร้ายร่างกาย เปิดเผยว่า ปกติจะโดนตีบ่อยๆ  เพราะตนทำผิด เรื่องรองเท้าเปียก ขาด บางครั้งตนท้องเสีย ฉี่ราดกางเกง ก็ถูกตี ผู้ปกครองก็ให้กินยาทิฟฟี่ และทายาแก้ช้ำให้ ปกติตนจะช่วยผู้ปกครองทำงานบ้าง ขายของ ขายยากันยุง ส่วนลุงไม่ได้ทำงานอะไร หลังจบ ป.6 ตนอยากบวช และญาติบอกว่าจะรับเข้าไปอยู่ในตัวเมืองโคราช ไปอยู่และเรียนต่อที่นั่น

ด้านนายธนพนธ์ เล็กสิงโต ครูสอนวิชาต้านทุจริตและสอนศิลปะของโรงเรียน ซึ่งเป็นครูคนแรกที่เห็นร่องรอยเด็กถูกทำร้าย เปิดเผยว่า “ก่อนจะร่องรอยการถูกทำร้าย ได้บอกให้เด็กนักเรียนในห้องตั้งใจเรียนและจดตามที่ครูสั่ง แต่เด็กชายคนนี้บอกว่าเจ็บหลัง นั่งนานไม่ได้ เพราะถูกผู้ปกครองตี จึงสอบถามเรื่องราวจนทราบว่า เด็กทำรองเท้าที่ผู้ปกครองซื้อใหม่ ขาดเป็นรู เพราะไปเหยียบหนามและรองเท้าเปียก ลุงจึงตีด้วยไม้หวาย ซึ่งเป็นแผลใหญ่มาก จึงตามครูประจำชั้นมา และเปิดแผลบนแผ่นหลังของเด็กดู หารือกันว่าจะต้องหาทางช่วยเหลือเด็กไม่ให้ถูกทำร้ายรุนแรงแบบนี้อีก จึงได้พากันไปแจ้งผู้ปกครอง อย่าทำร้ายอีก แต่ผู้ปกครองก็ยังไม่หยุด จึงประสานฝ่ายปกครองอำเภอและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ เพราะไม่อยากให้เด็กฝังใจแล้วมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง ก้าวร้าว ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ก็มาช่วยเหลือเยียวยา และนำตัวเด็กไปตรวจร่างกาย ซึ่งแพทย์แนะนำให้ไปแจ้งความดำเนินคดี เพราะบาดแผลค่อนข้างฉกรรจ์และนักจิตวิทยา ระบุว่าเป็นอันตรายต่อสภาพจิตของเด็กอย่างมาก