อุทาหรณ์! ชายจีนไอนานกว่า 2 ปี กินยาไม่หาย คิดว่าเป็นมะเร็ง ผ่าตัดพบเศษพริกในปอด คาดสำลักหม้อไฟ

สำนักข่าวจีน รายงาน ชายในเมืองหางโจว ประเทศจีน มีอาการไออย่างอธิบายไม่ได้มานานกว่า 2 ปี แทนที่จะไปพบแพทย์ เขาไปร้านขายยาเพื่อซื้อยาและกินยาเป็นระยะ ๆ ซึ่งอาการของเขาไม่ดีขึ้นเลย ทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นมะเร็งปอด แต่ความจริงสาเหตุของอาการไอใกล้ตัวกว่าที่คิด

ตามรายงาน ชายคนดังกล่าวตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งเขาเข้ารับการรักษาที่แผนกศัลยกรรมทรวงอก วิทยาเขตซันดัน ของโรงพยาบาลเจ้อเจียง ผลซีทีสแกนพบสิ่งแปลกปลอมในปอดล่างขวาและมีต่อมน้ำเหลืองในช่องท้องขยายใหญ่ขึ้นบวมผิดปกติ

ชายกังวลมากจนหวังว่าจะได้รับการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัด แพทย์ได้ส่องกล้องตรวจหลอดลมซึ่งพบว่าไม่พบความผิดปกติอื่นใด จนกระทั่งครึ่งเดือนที่ผ่านมาก็เข้ารับการผ่าตัด

แพทย์จากแผนกศัลยกรรมทรวงอกของโรงพยาบาลเจ้อเจียง กล่าวว่าแผนการผ่าตัดเดิมของเขาคือการนำเนื้อเยื่อปอดของผู้ป่วยส่วนหนึ่งไปอยู่ภายใต้การผ่าตัดผ่านกล้องทรวงอกเพื่อทำพยาธิวิทยาแช่แข็งระหว่างการผ่าตัดและชี้แจงลักษณะของมวลปอด

ทว่าเมื่อคนไข้ดมยาสลบเพื่อการผ่าตัด ขณะกำลังใส่ท่อช่วยหายใจ สิ่งแปลกปลอมสีดำและสีแดงก็ถูกสำลักออกมา แพทย์ระบบทางเดินหายใจจากโรงพยาบาลเจ้อเจียงพยายามทำการผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากขั้วปอด ซึ่งพบว่า คือ พริก

ทั้งนี้ คนไข้เผยว่า อาการไอไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป พร้อมนึกถึงเหตุการณ์เคยทานหม้อไฟรสเผ็ดแล้วสำลักอย่างรุนแรงเมื่อสองปีก่อน หัวหน้าแพทย์ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมทรวงอกของโรงพยาบาลเจ้อเจียงวิเคราะห์ว่า คนไข้อาจสำลักและสูดดมโดยไม่ตั้งใจขณะรับประทานหม้อไฟ พริกเข้าไปในปอดผ่านทางเดินหายใจ ฝังซ่อนอยู่ในเยื่อบุผิวของขั้วปอด ซึ่งยากต่อการตรวจจับด้วยการตรวจสอบทั่วไป

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากมีอาการไอเป็นเวลานานซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดและไม่สามารถยืนยันสาเหตุได้ ควรพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งแปลกปลอมในหลอดลมและยืนยันในที่สุดด้วยการส่องกล้องหลอดลม ยิ่งหากคุณสำลักอาหารอาจแสดงอาการไอเรื้อรังหรือติดเชื้อในปอดในระยะยาว

หากไม่สามารถเอาสิ่งแปลกปลอมออกได้ทันเวลา อาจส่งผลให้เกิดภาวะปอดแฟบ (atelectasis) ติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือในกรณีร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากการหายใจไม่ออก